ด้วยอำเภอหัวไทรแจ้งการประชาสัมพันธ์ไปยังมัสยิดในพื้นที่อำเภอหัวไทร ตามประกาศของประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ว่าด้วย การละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด (ฉบับที่ 6/2564) โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 เห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการผ่อนปรนการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนี้
1. สำหรับมัสยิดในพื้นที่ที่คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดร่วมกันประเมินแล้วเห็นว่ายังคงมีความเสี่ยงให้พิจารณางดการละหมาดบ่าย (ดุฮ์ริ) 4 รอกาอัต ที่บ้านแทนต่อไป โดยให้พิจารณาความเสี่ยงตามเกณฑ์ ดังนี้
1.1 มีสัปบุรุษต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.2 มีสัปบุรุษเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงหรือต่างประเทศ
1.3 มีบุคคลเดินทางจากต่างถิ่นมาร่วมละหมาดญะมาอะห์และญุมอะห์
2. สำหรับมัสยิดที่พิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด ได้ให้ดำเนินการตามมาตรการต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
2.1 ให้คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดประสานไปยังหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่(อสม. หรือ รพ.สต.) ฝ่ายปกครองในพื้นที่ (ผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน) รวมถึงตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกันวางมาตรการและกำกับการบังคับใช้ให้เป็นไปตามมาตรการ ระเบียบ และประกาศของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโรค
2.2 ดำเนินการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดตามประกาศจุฬาราชมนตรี ดังนี้
1) หลีกเลี่ยงการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือแล้วกล่าวสลามกันเท่านั้น
2) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือการคัดกรองผู้ป่วยในระบบทางเดินหายใจ
3) สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขณะเข้าศาสนสถานและขณะปฏิบัติศาสนกิจ
4) ให้อาบน้ำละหมาดที่บ้านและหลีกเลี่ยงการใช้ที่อาบน้ำละหมาดแบบกุลละฮ์
5) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร
6) ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
7) ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของศาสนสถานก่อนปฏิบัติศาสนกิจ และภายหลังการปฏิบัติศาสนกิจ และเห็นควรให้เก็บพรมปูละหมาด (หรือทำความสะอาดแบบเข้มข้น) และให้นำผ้าปูละหมาดส่วนตัวมาใช้ และไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
8) ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากศาสนสถานและหากเป็นไปได้เพิ่มมาตรการใช้แอปพิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด
9) รวบรัดระยะเวลาระหว่างการอาซาน การคุตบะฮ์ และการละหมาดไม่เกิน 30 นาที และออกจากพื้นที่ศาสนสถานโดยเร็วหลังเสร็จสิ้นการละหมาด
3. อนึ่ง สำหรับพื้นที่ใดที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้กำหนดมาตรการใดๆ เพิ่มเติมหรือมีความเห็นเป็นอย่างอื่นที่สะท้อนถึงสถานการณ์จริงในพื้นที่ ให้กรรมการอิสลามประจำมัสยิดดำเนินการตามมาตรการที่พื้นที่นั้นๆ กำหนดด้วย